รีวิว FIRST MAN (2018): มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์
FIRST MAN มนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์ เล่าเรื่องราวภารกิจของนาซ่าในการส่งมนุษย์ไปดวงจันทร์ โดยเน้นเล่าเรื่องนีล อาร์มสตรอง ในช่วงระหว่างปี 1961-1969 เรื่องราวของมนุษย์คนแรกที่เดินทางไปถึงดวงจันทร์สร้างจากหนังสือของเจมส์ อาร์. แฮนเซน
เรื่องราว First Man จะพาทุกคนย้อนเวลาไปในปี 1961-1969 เพื่อติดตามชีวิต นีล อาร์มสตรอง ผู้ชายที่สร้างประวัติศาสตร์เป็น ‘มนุษย์’ คนแรกที่ก้าวเท้าไปเหยียบบนดวงจันทร์ โดยดัดแปลงมาจากหนังสือ First Man: The Life of Neil A. Armstrong ของ James R. Hansen และเป็นการกลับมาร่วมงานกันอีกครั้งของผู้กำกับและนักแสดงคู่ใจอย่าง เดเมียน ชาเซล และ ไรอัน กอสลิง หลังจากภาพยนตร์สุดโรแมนติกอย่าง La La Land ในปี 2016 สิ่งที่คนดูจะได้เห็นตลอดระยะเวลา 9 ปีในหนังคือเส้นทางแห่งตำนานที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่หลายคนคิด เพราะนีล อาร์มสตรองไม่ได้เกิดมาเพื่อขึ้นไปยืนบนดวงจันทร์ แต่มีอีกหลายเรื่องที่เขาต้อง ‘สู้’ และฝ่าฝันไปให้ได้อย่างยากลำบาก ทั้งการพัฒนาโครงการที่เริ่มต้นจากศูนย์ การฝึกสุดโหดที่ไม่เคยถูกบรรจุเอาไว้ในตำราเล่มไหน การแบกความหวังของคนทั้งโลก การเดินทางที่ยาวนานที่สุดในชีวิตและไม่มีใครรู้ว่าเขาจะได้กลับมาอีกหรือไม่ รวมทั้งการต้องตอบคำถามลูกรักที่อาจง่ายสำหรับครอบครัวอื่น แต่เขากลับไม่มั่นใจที่จะพูดออกไป
ภาพรวม First Man เป็นภาพยนตร์เล่าเรื่องของ นีล อาร์มสตรอง แน่นอนหละว่าทุกคนต้องรู้อยู่แล้วว่าเรื่องราวสำคัญคือเขาได้ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์คนแรกโดยยาน อะพอลโล 11 แล้วก็สามารถกลับลงมาอย่างปลอดภัย แต่ก็ไม่ใช่ว่าหนังเรื่องนี้จะไม่มีอะไรสนุก ให้เราได้ลุ้นได้อินกัน เพราะตัวหนังนั้นจะพาเราไปรับรู้เรื่องราวหลายๆ เรื่องที่เราอาจไม่เคยได้สนใจมาก่อน เช่น เรื่องชีวิตครอบครัว เพื่อน รวมถึงหนทางอันยาวไกลก่อนที่เขาจะขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ หนังเรื่องนี้จะใช้ลักษณะการเดินเรื่องช้าๆ ค่อนข้างที่จะเป็นเส้นตรง โดยมีจุดพีคอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่ถึงขนาดหนังแนวอวกาศเรื่องอื่นๆ ที่มีให้ลุ้นกันแบบลืมหายใจ แต่ในฉากที่สำคัญต่างๆ ก็ยังสามารถเรียกความสนใจให้เราได้ลุ้น ได้อิน ได้ประทับใจ ได้ซึ้ง ไปกับหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
สรุปมนุษย์คนแรกบนดวงจันทร์ เป็นหนังที่น่าดูเรื่องหนึ่งเลย เพราะว่าจะทำให้เราได้เห็นมุมบอกของบุคคลที่ผมเชื่อว่าเราทุกคนต้องรู้จักอย่าง นีล อาร์มสตรอง คนนี้ได้ดีมากขึ้น ได้เห็นมุมมองชีวิตของเขาว่าต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้างกว่าที่เข้าจะได้ขึ้นไปเหยียบดวงจันทร์ได้ ตัวหนังอาจไม่ได้สนุกแบบหวือหวามากมาย แต่เชื่อว่าหากใครได้ดุจะต้องลุ้น ต้องอิน ต้องเศร้าไปกับตัวละครในหนังเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดี
Comments
Post a Comment