แนะนำซีรีย์สารคดี ผจญภัยสุดขั้วกับแบร์ กริลส์ (You vs. Wild)

ผจญภัยสุดขั้วกับแบร์ กริลส์ (You vs. Wild)  บอกเล่าโดยนำ แบร์ กริลส์ (Bear Grylls) นักผจญภัยเอาตัวรอดที่มีชื่อเสียงระดับโลกจากรายการของเขาที่ชื่อ Man vs. Wild มาเป็นตัวละคร ที่จะให้เราได้ช่วยตัดสินใจตลอดการผจญภัยผ่านภูมิประเทศที่หลากหลายและมากอันตรายทั่วโลกด้วย ชื่อซีรีส์ย์ก็ล้อมากับรายการของแบร์ กริลส์เลย แค่เปลี่ยน Man ที่แทนตัวแบร์ กริลส์ มาเป็น You ที่หมายถึงพวกเราผู้ชมเองนี่ล่ะ


เรื่องราวเป็นหนึ่งในตัวช่วยด้านการศึกษาที่ดีจริง ๆ และนายแบร์ กริลส์ กับทีมงานก็ออกแบบซีรีย์เอาตัวรอดกลางธรรมชาติอันโหดร้ายนี้ได้สนุกทั้งยังเหมาะกับการเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเองได้เยี่ยมเลยด้วย โดยเริ่มต้นของแต่ละตอนแบร์ กริลส์จะเล่าถึงโจทย์หรือมิชชั่นในแต่ละครั้งก่อน ซึ่งพลอตก็วางไว้แบบให้ร่วมลุ้นทุกครั้ง ไม่ว่าจะภารกิจช่วยผู้สูญหายกลางป่า ภารกิจเก็บเซรุ่มแก้พิษจากเครื่องบินที่ตกกลางทะเลทราย หรือภารกิจช่วยเหลือสุนัขกู้ภัยที่หลงอยู่กลางภูเขาหิมะเสียเอง คือทุกอย่างวางไว้และบีบเราด้วยเวลาที่จำกัด วางทางเลือกให้รู้สึกถึงความเสี่ยงนิด ๆ ราวกับฉากในหนังสนุก ๆ เลยล่ะ เช่นว่าจะเดินข้ามไม้พาดหน้าผาหรือจะโหนเถาวัลย์ข้ามไป และตลอดเวลาเสียงบรรยายและแบร์ กริลส์จะคอยกระตุ้นเราเสมอว่านี่คือภารกิจที่เราเป็นผู้ช่วยร่วมเดินทางร่วมตัดสินใจ และเวลามีจำกัดต้องเลือกทางที่ไวที่สุดและที่สำคัญต้องปลอดภัยด้วย 


ความดีงามของทางเลือกคือ ก่อนที่เราจะตัดสินใจ นายแบร์ กริลส์ เขาจะอธิบายคร่าว ๆ ถึงความเป็นไปได้ของแต่ละทางเลือก ซึ่งบางทีเขาก็จะพูดไม่หมด ก็ต้องอาศัยความรู้และจินตนาการเราต่อยอดด้วย แต่การได้รับบรีฟและบริบทของสถานการณ์ก่อนตัดสินใจ ก็ฝึกให้เราได้ใช้ข้อมูลที่จำกัด คิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ ไม่ได้เลือกเอามันแบบไร้ตรรกะ นี่เป็นจุดหนึ่งที่คิดว่ามันควรเอาไปให้เด็ก ๆ ในห้องเรียนวิชาลูกเสือก็ได้ ให้ลองเล่นกัน นอกจากได้ความรู้เอาตัวรอดหลายอย่างที่เป็นทริกเด็ด ๆ เช่นวิธีจุดไฟกลางป่าชื้น วิธีหาน้ำและฆ่าเชื้อกลางทะเลทราย หรือวิธีหาทิศเหนือโดยสังเกตธรรมชาติเมื่อไม่เห็นดวงอาทิตย์ เป็นต้นแล้ว ยังได้ฝึกนิสัยในการคิดอย่างเป็นระบบมีเหตุผลด้วย


โดยสรุปแล้วเป็นซีรีย์ที่ดีมาก ๆ สนุกด้วย ได้ความรู้ด้วย แถมแปลกใหม่ดี เหมาะกับการดูกันหลาย ๆ คน มีเด็กร่วมวงด้วยยิ่งดี จะได้ฝึกการแก้ปัญหากันสร้างลักษณะนิสัยที่ดีให้เด็กกัน อ่อไม่ต้องกลัวว่าจะอ่านซับแล้วเด็กไม่สนุก เพราะเขามีพากย์ไทยมาให้ด้วย ดูเพลินเลยล่ะทีนี้ค่ะ มาผจญภัยไปด้วยกันค่ะ รับรองว่าสนุกแน่นอนค่ะ

👉👉  ติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ รีวิวหนังมิวสิคัล เพลงดนตรี ได้ที่นี่


Comments

Popular posts from this blog

รีวิวภาพยนตร์ Sand Castle จากเรื่องจริงของสงครามในอิรัก

รีวิว Welcome to Earth (2021) สารคดีรออกเดินทางไปกับ "วิลล์ สมิธ"

รีวิวสารคดี Jimmy Savile: A British Horror Story (จิมมี่ ซาวิล) ดีเจในตำนานแห่งอังกฤษ