รีวิวภาพยนตร์เรื่อง The Trial of the Chicago 7 - ประวัติศาสตว์สุดมัน
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ดำเนินเรื่องราว
การประท้วงอย่างสันติ ณ
งานประชุมแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยในปี 1968
กลายเป็นการปะทะกันอย่างรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจและสำนักงานกองกำลังพิทักษ์ชาติ
แกนนำผู้ประท้วงอย่างแอ็บบี้ ฮอฟแมน, เจอรรี่ รูบิน, ทอม
เฮย์เดน และบ็อบบี้ ซีลถูกจับข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการปลุกปั่นการจลาจล
และการพิจารณาคดีที่ตามมากลายเป็นเหตุการณ์ที่อื้อฉาวที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์
The Trial of the Chicago 7 คือหนังคอร์ตรูมที่ 90% ของเรื่องเกิดขึ้นในศาล
(ตัวอย่างที่เห็นฉากชุมนุมฉากปะทะกันนั่น โคตรหลอกลวงครับ)
เกี่ยวกับคดีที่รัฐบาลอเมริกันฟ้องแกนนำผู้ชุมนุมต่อต้านสงครามเวียดนามที่ทำให้เกิดการปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในปี 1968 (ช่วงเปลี่ยนเข้ายุคประธานาธิบดีนิกสันสมัยแรก)
แอรอน ซอร์กิน ที่เคยเขียนบท The Social
Network มาทำหน้าที่เขียนบทและกำกับได้โคตรเก่ง
บทสนทนาเปลือยคาแรกเตอร์ตัวละครและตัวสังคมได้อย่างชาญฉลาด
(โดยส่วนตัวคือชอบงานสไตล์หนังคุยกันของ ปีเตอร์ มอร์แกน จากหนังอย่าง Frost/Nixon
และ The Queen มาก เลยยิ่งสนุกกับเรื่องนี้)
คือพูดกันทั้งเรื่องแต่ดูสนุก แค่ความตลกร้ายที่ชื่อเรื่องว่า The Trial of
the Chicago 7 แต่จำเลยมี 8 คน ก็ย้อนแย้งแสบสันแล้ว
เพราะว่าอีก 1 คนนั้นเป็นหัวหน้ากลุ่มผิวดำหัวรุนแรงอย่างแบล็กแพนเธอร์
(ที่ไม่ใช่ฮีโรมาร์เวล) ขนาดตัวละครยังต้องพูดว่า
“โลกทั้งใบบอกว่าจงปล่อยตัวพวกชิคาโกทั้ง 7 คน โดยไม่นับผมซะอย่างงั้น”
ถ้าถอดเหตุการณ์จริงในปี 1968
และภาพการเมืองที่ขัดอคติผู้ชมต่างวัฒนธรรมการเมืองออกไป หนังเรื่องนี้ก็กล่าวได้ว่ามีเนื้อแท้พูดถึงมนุษย์ธรรมดาหลากหลายกลุ่ม
หลากหลายความคิด ที่ต่างดิ้นรนต่อสู้ตามความเชื่อของตนเอง
Comments
Post a Comment