รีวิวหนังเรื่อง The Highwaymen-คู่หูนักฆ่า

 


แค่เรื่องนี้เห็นชื่อนักแสดงก็น่าดูแล้ว เควิน คอสต์เนอร์ มารับบทนำประกบคู่กับ วู้ดดี้ ฮาร์เรลสัน โดยหนังจะเล่าถึง ประวัติศาสตร์อาชญากรรมอเมริกันที่โด่งดังที่สุดในยุค 1930 อย่างคดี บอนนี่ และ ไคลด์ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า คดีของบอนนี่ และ ไคลด์ถูกนำมาทำเป็นหนังก็หลายครั้งแต่การเล่าผ่านสายตาของเจ้าหน้าที่ที่ออกตามล่าในมุมวิเคราะห์จิตใจของมือวิสามัญฆาตกรรมที่เกษียณตัวเองให้น่าค้นหามากกว่าหนังตำรวจจับผู้ร้ายที่ใช้คดีดังมาสร้างความสนใจด้วย



ต้องยอมรับว่างานโปรดักชั่นที่ดูสวยและตั้งใจเกินมาตรฐานหนังสตรีมมิ่งทำให้เราเพลิดเพลินกับการดูหนังไม่ใช่น้อย ทั้งฉากชุดเสื้อผ้าหน้าผมที่ย้อนไปช่วงปี 1930 ได้แบบละเมียดละไม การออกแบบฉากฆาตกรรมภาพศพที่สยดสยองดูรุนแรงแต่ก็มีศิลปะในการนำเสนอ ด้วยงานภาพและองค์ประกอบศิลป์ที่ดีก็ทำให้หนังขึ้นไปอยู่บนมาตรฐานหนังรางวัลได้ไม่ยาก เมื่อพิจารณาไปถึงการแสดงของนักแสดงนำอย่าง คอสต์เนอร์และฮาร์เรลสันด้วยก็ยิ่งเพลิดเพลินเจริญใจมากสำหรับคอหนังดราม่าธริลเลอร์ย้อนยุค ชอบในความคิดคะนึงในสายตาของทั้งคู่เวลาที่ต่างกำลังสำรวจที่ทางและจิตใจของตนเอง ที่ทำให้นึกถึงการแสดงของ ทอมมี่ ลี โจนส์ ในหนัง No Country for Old Men ที่จะว่าไปก็มีประเด็นที่จับต้องได้คล้าย ๆ กัน หากแต่หนังของแฮนคุกนี้ ดูง่ายกว่า แต่ก็ไม่เบาโหวงเกินไป เป็นท่าทีการนำเสนอที่พอเหมาะพอเจาะกับคนดูทั่วไปด้วย



หนังเล่าเรื่องราวที่ แฟรงก์ เฮเมอร์ (คอสต์เนอร์) อดีตผู้กองหน่วยเท็กซัสเรนเจอร์ หน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เน้นสังหารได้ถูกทาบทามให้กลับมารับภารกิจที่เจ้าหน้าที่ธรรมดายากจะทำสำเร็จ คือคดีบอนนี่กับไคลด์สองคู่รักนักฆ่าที่ก่อคดีฆ่าชิงทรัพย์มาให้คนจน จนกลายเป็นขวัญใจของผู้คนด้วยรูปร่างหน้าตาที่สวยหล่อเป็นทุนทำให้พวกเขาอยู่ในสถานะของดารา หรือฮีโร่สำหรับหลายคนด้วย และการที่วีรบุรุษปลอมได้รับการยกย่องก็ขัดใจเฮเมอร์ที่คำนึงถูกผิดมาก่อนอารมณ์ความรู้สึกอย่างมาก เขาจึงทิ้งชีวิตเกษียณแสนสงบออกมาสู่ท้องถนน โดยไปชวนสหายเก่าอย่าง มานีย์ กอลต์ (ฮาร์เรลสัน) มาร่วมภารกิจ ซึ่งการพบกันอีกครั้งของทั้งคู่หลังจากเกษียณไปเป็นคุณตากันแล้วก็น่าสนใจทีเดียว เพราะกอลต์อยากกลับมาทำให้ตัวเองมีคุณค่าในโลกยุคที่เขากลายเป็นคนชราไร้ความสำคัญไปแล้ว ส่วนด้านเฮเมอร์ก็ประสบปัญหาว่าเขายังมีความจำเป็นอยู่จริงหรือไม่ในโลกยุคที่ตำรวจมีทั้งเครื่องไม้เครื่องมือและคนหนุ่มสาวก็มีพละกำลังไล่จับคนร้ายได้ดีกว่าพวกเขา ยังไม่นับเรื่องของความรู้สึกผิดในการฆ่าคนที่ฝังตัวอยู่ลึกในความใจหินของมือเพชรฆาตของทั้งกอลต์และเฮเมอร์ด้วย



มันมีฉากที่น่าจดจำหลายฉากเลย ส่วนหนึ่งต้องยอมรับว่าการเขียนบทของ จอห์น ฟัสโก้ ที่ถนัดหนังแนวคาวบอยเองก็เป็นส่วนสำคัญ ฉากนิ่ง ๆ ที่เชือดเฉือนกันด้วยคำพูดและอาศํยพลังการแสดงที่ไม่ต้องรัชดาลัยนั้น ทำให้ตราตรึงได้หนักกว่าฉากความรุนแรงอย่างการยิงจ่อหัวมากมายนัก ทั้งฉากที่เฮเมอร์ต้องพูดคุยกับพ่อของไคลด์ในประเด็นเรื่องคนเรามีความเป็นคนชั่วมาแต่เกิดหรือไม่ และอะไรคือจุดแตกต่างระหว่างมือวิสามัญฆาตกรรมอย่างเฮเมอร์ กับฆาตกรอย่างไคลด์ หรือฉากที่กอลต์เล่าถึงวีรกรรมครั้งแรกของเขากับเฮเมอร์สมัยหนุ่ม ที่สร้างข้อวิพากษ์ในเรื่องของความเป็นฮีโร่ว่าคืออะไรกันแน่ เหล่านี้นี่เองที่ทำให้หนังเรื่อง The Highwaymen เป็นมากกว่าหนังโร้ดมูฟวี่ หรือหนังตำรวจล่าผู้ร้ายธรรมดา คอดราม่าต้องดูเลยครับ


ยังมีให้คุณได้ติดตามอีกเพียบ สารคดี netflix


Comments

Popular posts from this blog

รีวิวภาพยนตร์ Sand Castle จากเรื่องจริงของสงครามในอิรัก

รีวิว Welcome to Earth (2021) สารคดีรออกเดินทางไปกับ "วิลล์ สมิธ"

รีวิวสารคดี Jimmy Savile: A British Horror Story (จิมมี่ ซาวิล) ดีเจในตำนานแห่งอังกฤษ