รีวิวภาพยนตร์ เรื่อง 127 Hours
ภาพยนตร์เรื่องนี้เสร้างเรื่องจริงของนักปีนเขา
ที่เขาออกเดินทางไปปีนเขาโดยไม่ได้บอกใคร
ในระหว่าที่เขากำลังปีนอยู่นั้นมันก็เกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้น เขาร่วงลงไปในซอกเขา ซวยในซวยอีก ก้อนหินขนาดใหญ่หล่นลงมาทับแขนขวาของเขาอีกมันทำให้เขาติดแงกไปไหนไม่ได้
และก็ไม่มีใครรู้ด้วยว่าเขาหายเขาต้องติดอยู่ที่นั่นโดยมีอาหารและน้ำในปริมาณจำกัด
และเรื่องนี้บอกเลยว่าสนุกแถมได้ผู้กำกับฝีมือดีอย่าง Danny Boyle
ส่วนหนึ่งที่มันดีเพราะมันสร้างจากเรื่องจริง
จึงทำให้สถานการณ์ดูสมจริง มุมกล้องดูมีความดิบและสถานการณ์มีความเป็นไปได้มากๆ
อุบัติเหตุที่อารอนเจอนั้นสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพียงแค่ประมาทนิดเดียว
ชีวิตก็เปลี่ยนได้ ดูแล้วเป็นเรื่องตลกร้ายจริงๆ
ที่คนเราต้องทุกข์ทนทรมานเพียงเพราะก้อนหินก้อนเดียว เหมือนธรรมชาติเล่นตลกกับเรา
พอเจอสถานการณ์แบบนี้
หลายคนคงจะสติแรกและไม่เป็นอันทำอะไร แต่อารอนนั้นประคองสติไว้ได้ดีมาก เขาค่อยๆ
คิดว่าจะมีวิธีเอาตัวรอดแบบไหนบ้าง เขางัดเครื่องมือเครื่องไม้ทุกอย่างมาใช้
ไม่ว่าจะเป็นมีดพกเพื่อหั่นหิน หรืออุปกรณ์สลิงที่หวังว่าจะยกหินออกไปได้
แม้ทั้งหมดนี้จะไม่ได้ผล แต่เราก็นับถืออารอนมากที่ไม่สิ้นหวังในสถานการณ์แบบนี้
และยังสามารถไตร่ตรองได้อย่างดีว่าจะเอาตัวรอดยังไง
แน่นอนว่าเมื่อลองทุกวิธีแล้วไม่ได้ผล
ก็ต้องท้อแท้เป็นธรรมดา บวกกับสภาพร่างกายที่ขาดอาหารขาดน้ำ เลือดไหลเวียนไม่ดี
ก็ทำให้อารอนสติหลุดไปบ้าง ยิ่งเวลาผ่านไป เขาก็ยิ่งประสบกับปัญหาภาพหลอน
เรื่องราวในอดีตฉายวนกลับเข้ามาอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก
ภาพเหล่านี้รีเพลย์ในหัวของเขา ตรงกับเรื่องเล่าที่บอกว่าเวลาคนใกล้จะตาย
ชีวิตทั้งชีวิตของเขาจะถูกรีเพลย์ให้ดูอีกครั้งโดยอัตโนมัติ
Comments
Post a Comment