รีวิว หนังสารคดีเรื่อง Coach Carter เรือจะถึงฝั่งได้ นายท้ายต้องรู้ทิศทาง
เมื่อโค้ชคาร์เตอร์เป็นชนชั้นกลางผู้ประสบความสำเร็จ
คาร์เตอร์มีครอบครัวที่อบอุ่น มีบ้านหลังใหญ่ มีรถราคาแพง
มีธุรกิจร้านจำหน่ายอุปกรณ์กีฬา ชีวิตของเขาเป็นระบบระเบียบ เคร่งครัด
และไม่มีจุดด่างพร้อย วันหนึ่งคาร์เตอร์ได้รับคำเชิญให้ไปเป็นโค้ชบาสเกตบอลโรงเรียนมัธยมศึกษาริชมอนด์
ซึ่งเขาเคยเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลที่นี่ เคยได้รางวัลนักกีฬาบาสเกตบอลดีเด่น 2
ปีซ้อน เคยมีผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี และเคยได้รับทุนการศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย
คาร์เตอร์จึงตระหนักดีว่า การวางรากฐานชีวิตที่ “ถูกทิศทาง” สำคัญต่อ
“โอกาสและอนาคต” ของเด็กคนหนึ่งขนาดไหน
แถมเมืองริชมอนด์ยังมีสิ่งเลวร้ายพร้อมจะล่อตาล่อใจให้หลงเดินทางผิดอยู่มากมาย
ดังนั้น ทันทีที่เขาเห็นสภาพนักกีฬาในสังกัดที่ทั้งไร้ระเบียบ หยาบคาย ชอบใช้กำลัง
ไม่สนใจเรียน ไม่คิดวางแผนอนาคตตัวเอง เขาจึงปฏิวัติการฝึกซ้อมใหม่โดยไม่ลังเล
โค้ชคาร์เตอร์ร่างสัญญาที่บังคับให้นักกีฬาบาสทุกคนต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า
2.3 ต้องเข้าเรียนทุกคาบ ต้องนั่งเรียนแถวหน้าสุด
ต้องใส่สูทผูกเนกไททุกครั้งที่เดินทางไปแข่งขัน รวมถึงให้ทุกคนมาถึงโรงยิม
“ก่อนเวลานัดซ้อม” มิเช่นนั้นจะถูกทำโทษ ซึ่งระเบียบนี้ไม่มีข้องดเว้น
แม้แต่กับลูกชายของคาร์เตอร์เอง
แน่นอนว่ามาตรการของเขาสร้างความไม่พอใจให้คนอื่นๆ
ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน ผู้ปกครอง อาจารย์ ผู้อำนวยการ ไปจนถึงประชาชนทั่วไป
ทุกคนข้องใจว่า เหตุใดการฝึกบาสถึงมีเรื่องการเรียนเข้ามาเกี่ยวข้อง
กระทั่งเหตุการณ์ขมวดเกลียวถึงขีดสุด
เมื่อโค้ชคาร์เตอร์ตัดสินใจยกเลิกการแข่งขันครั้งต่อๆ ไปทั้งที่นำทีมชนะอย่างต่อเนื่อง
เขาล็อกโรงยิม ห้ามไม่ให้ผู้ใดเข้าซ้อม
จนกว่าผลการเรียนของสมาชิกในทีมทุกคนจะผ่านเกณฑ์
Comments
Post a Comment