รีวิว หนังเรื่อง American Murder: The Family Next Door

 


หนังสารคดีที่เผยเรื่องราวคดีอาชญากรรม ของชีวิตคู่ที่ดูภายนอกดีหมดทุกอย่าง แต่เบื้องหลังกลับตรงข้ามเมื่อหญิงสาวที่กำลังตั้งท้องและลูกสาววัยเด็กสองคนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากบ้าน และสามีของเธอตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ท่ามกลางการปิดบังอำพรางคดีที่น่าขนลุกทั้งก่อนและหลังการเปิดเผยความจริงทั้งหมด สารคดีที่จั่วหัวสปอยล์ไว้ตั้งแต่ชื่อเรื่องเลยนี่คือเรื่องราวของคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ คดีของแชนแนน คุณแม่ลูกสองวัย 38 ปี ที่ผ่านชีวิตการแต่งงานมา 8 ปี และกำลังอุ้มท้องเด็กอีกคนหนึ่ง ทั้งหมดหายตัวไปจากเมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งในอเมริกา ซึ่งคดีของแชนแนนถือเป็นคดีใหญ่ระดับประเทศอเมริกา ทั้งในแง่ของการติดตามจากคนทั้งประเทศ และจากตัวคดีเองที่เมื่อคลี่คลายแล้วพบว่ามีความหนักหน่วงมาก ถึงขั้นที่ผู้พิพากษาอวุโสในคดีนี้ยังเอ่ยว่าโหดร้ายรุนแรงที่สุดตั้งแต่เขาทำงานมา ซึ่งจุดนี้แหละคือความน่าติดตามของหนังสารคดีเรื่องนี้ที่เจาะลึกถึงเรื่องราวต่างๆ แบบลำดับเรื่องตามเวลาที่เกิดด้วยภาพกับเสียงของจริงต่อกันทั้งหมดได้อย่างน่าติดตาม

เสนอแบบแทนเหตุการณ์จริงในหลายช่วง เพราะไม่มีการบันทึกภาพ เสียง ย้อนหลังไปในช่วงเวลานั้น แต่หนังสารคดีเรื่องนี้ทุกอย่างคือภาพ เสียง จากของจริงลำดับตามเวลาการหายตัวไปตั้งแต่ต้น โดยมาจากกล้องติดตัวของตำรวจที่เป็นคนแรกที่ได้รับแจ้ง รวมถึงคนอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนนี้ ได้บันทึกผ่านกล้องที่ติดตามตัว หรือผ่านกล้องวงจรปิดในห้องสืบสวน ซึ่งทำให้ได้มุมมองที่อาจจะไม่ได้เห็นกันง่ายๆ นัก อย่างการสืบสวนแบบบันทึกเสียงจี้ไปยังผู้ต้องสงสัย หรือการสืบโดยใช้เครื่องจับเท็จ ที่ผู้ใช้เครื่องมีจิตวิทยาการหลอกล่อผู้เข้ารับการทดสอบตั้งแต่แรก ไม่ใช่เพียงแค่ฝากการพิสูจน์ไว้กับเครื่องเพียงเท่านั้น ซึ่งเราจะได้เห็นขั้นตอนเหล่านี้ที่ดูแล้วน่าทึ่ง ชวนอึ้งมากกับแนวทางการสืบสวนที่คาดไม่ถึง ยกตัวอย่างเช่น แค่การลดน้ำหนักเพื่อให้หุ่นดีของผู้ต้องสงสัย กลับเป็นจุดจับผิดขยายไปถึงเรื่องราวต่างๆ ในเวลาต่อมาได้อย่างน่าทึ่งมากๆ จนต้องยอมรับเลยว่าตำรวจสืบสวนของอเมริกาใช้ทั้งจิตวิทยา หลักฐาน การคาดคะเน พุ่งเป้าสืบสวนจนไขคดีได้ภายในเวลาอันสั้นมากๆ แค่ 3 วันเท่านั้น แต่เรื่องราวก็ไม่ได้จบแค่ตรงนั้น ยังมีชุดความจริงที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวเหล่านี้ลึกลงไปอีก ซึ่งกว่าจะขุดออกมาได้ก็ต้องผ่านไปอีกระยะเวลาหลายเดือน เรื่องราวถึงกระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ในวันนั้น



นอกจากฟุตเตจฝั่งตำรวจแล้ว ตัวสารคดียังเล่าเรื่องดราม่าชีวิตครอบครัวแชนแนนด้วยภาพ วิดีโอ เสียง ของจริงที่ได้มาจากเพื่อน ครอบครัว และจากการที่แชนแนนเป็นคนที่ชอบเล่นเฟซบุ๊กมาก เจอกับสามีก็จากเฟซบุ๊กเหมือนกัน (แอดขอเป็นเพื่อนมาจีบ) จึงเผยแพร่ชีวิตด้วยสวยงามของครอบครัวเธออยู่เสมอๆ ด้วยการอัดวิดีโอ หรือ Live สด ให้คนอื่นได้ดู ซึ่งตรงนี้เองเป็นฉาบหน้าที่สวยงามผ่านโซเชียลมีเดีย แต่เบื้องหลังกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง และไม่ใช่แค่ปัญหาครอบครัวที่เธอปิดบังไว้ แต่ยังมีปัญหาถึงครอบครัวฝ่ายสามีที่เหมือนว่าการแต่งงานครั้งนี้ผิดตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ยอมรับนับถือลูกสะใภ้เลย จนเป็นหนึ่งในชนวนเหตุที่พาทุกอย่างมาจบลงแบบไม่มีใครคาดคิดว่าจะโหดร้ายได้ขนาดนี้ ตัวเรื่องของฝั่งนี้จะตัดสลับกับการสืบสวนไปทีละช่วง โดยใช้การนับวันเล่าเรื่องไปข้างหน้าหลังการหายตัวไปทีละวัน ก่อนจะนับวันถอยหลังจากชนวนเหตุต่างๆ ที่เริ่มปรากฎมาให้เห็นเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งช่วยให้ผู้ชมได้เห็นภาพรวมของแรงจูงใจทั้งหมดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่อาจจะไม่สมบูรณ์เต็มร้อยนัก เพราะตัวเรื่องไม่ได้มีเสียงผู้บรรยายอธิบายอะไรเพิ่มเติม มีแค่การเน้นคำสำคัญในแชทที่ถูกแคปและยกขึ้นมาให้ได้อ่านกันครับ



เรื่องจริงที่ถูกสร้างเป็นหนังติดตามดูที่นี่ หนังสารคดี


Comments

Popular posts from this blog

รีวิวภาพยนตร์ Sand Castle จากเรื่องจริงของสงครามในอิรัก

รีวิว Welcome to Earth (2021) สารคดีรออกเดินทางไปกับ "วิลล์ สมิธ"

รีวิวสารคดี Jimmy Savile: A British Horror Story (จิมมี่ ซาวิล) ดีเจในตำนานแห่งอังกฤษ